บำรุงรักษาระบบไฟฟ้า (Preventive Maintenance) ความหมายเข้าใจได้ง่ายตามชื่อเรียก อธิบายขยายความให้เข้าใจเห็นภาพ คือ กระบวนการซ่อมแซมและดูแลรักษาระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยการทำการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือระบบต่างๆ ที่ใช้ในการส่งกำลังไฟฟ้า เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า (Preventive Maintenance) กระทำโดยการตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ เพื่อป้องกันการชำรุดหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
การไม่ตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในโรงงาน (Preventive Maintenance) อาจมีความเสี่ยงต่อความเสียหายมูลค่าสูง และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อโรงงานไม่มีการตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้า หรือทำ PM ตามมาตรฐาน ตามลักษณะต่างๆ เช่น
Thermographic Inspection (การตรวจสอบด้วยภาพเทอร์โม) คือ กระบวนการทางเทคนิคที่ใช้กล้องเทอร์โม (thermal imaging camera) เพื่อตรวจวัดและบันทึกภาพระดับความร้อนของวัตถุหรือสิ่งของที่ต้องการตรวจสอบ ภาพที่ได้จะแสดงการกระจายความร้อนในรูปแบบของสีหรือลายเส้นบนภาพที่ถ่ายได้
การใช้เทคนิคนี้สามารถนำมาใช้ในหลายแบบ ดังนี้
การใช้เทคนิค Thermographic Inspection เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบความผิดปกติหรือปัญหาที่เกิดจากความร้อนในสิ่งของหรือระบบต่างๆ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานทราบปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีมีความถูกต้องแม่นยำ อีกทั้งสามารถตรวจสอบในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้.
เคสตัวอย่าง SIMES กับการแก้ปัญหาเพลิงไหม้ในโรงงาน และการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ด้วยการตรวจสอบความร้อน Thermo Graphics Inspection
เราจะทราบได้ด้วยการตรวจสอบความร้อนด้วยกล้อง Thermal imaging camera คลิกอ่านต่อรายละเอียด
https://www.simes-engineering.com/cpt_service/thermoscan-inspection/
การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า Preventive Maintenance สำคัญอย่างมากเนื่องจากมีก่อให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินงานโดยรวม ดังนี้
แต่ละรูปแบบการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า นั้นมีความแตกต่างกันไปมีรายละเอียดดังนี้
การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance): การทำการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันความเสียหายหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยการทำการตรวจสอบ บำรุงรักษา และเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดเป็นประจำ
บำรุงรักษาเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance): การซ่อมแซมหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้าหลังจากเกิดข้อขัดข้อง โดยมุ่งเน้นที่การแก้ไขให้ระบบกลับมาทำงานได้ปกติ
บำรุงรักษาทวีผล (Productive Maintenance): การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าเพื่อส่งผลต่อการผลิตและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้วิธีการบำรุงรักษาที่เน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิต
บำรุงรักษาโดยรวม (Total Productive Maintenance): การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าโดยใช้หลักการของการบำรุงรักษาทวีผลร่วมกับการบำรุงรักษาระบบที่ทุกคนในองค์กรร่วมรับผิดชอบ เพื่อให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การซ่อมแซมหลังเกิดเหตุขัดข้อง (Breakdown Maintenance): การแก้ไขปัญหาหรือซ่อมแซมระบบไฟฟ้าหลังจากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือข้อขัดข้องที่ทำให้ระบบหยุดทำงานการซ่อมแซมในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้ระบบกลับมาทำงานได้ในขณะที่มีปัญหาเกิดขึ้น
โดยการเลือกใช้วิธีการบำรุงรักษาที่เหมาะสม นั้น
SIMES แนะนำว่าขึ้นอยู่กับลักษณะของระบบไฟฟ้าและเป้าหมายที่ต้องการ เช่น ต้องการลดความเสียหายในการผลิตหรือการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต การบำรุงรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ
สรุป การทำ Preventive Maintenance เป็นการลงทุนที่มีความสำคัญในการรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าในระยะยาว ควรมีการทำ PM อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะช่วยลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพราะการดูแลและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าภายในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับองค์กรหรือธุรกิจที่ใช้งานระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
หากโรงงานของท่านผู้ประกอบการ ต้องการซ่อม บำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ทำPartial Discharge ออกแบบ และตรวจสอบคุณภาพไฟฟ้า ปรึกษาเราฟรี
เรา Simes Engineering มีทีมวิศวกรเชี่ยวชาญมากกว่า 35 ปี ติดต่อเราได้ที่เบอร์
https://www.facebook.com/simesengineeringco
#Preventivemaintenance #maintenance #งานตรวจสอบระบบไฟฟ้า #บำรุงรักษาระบบไฟฟ้า #Substation #PD #partialdischarge
กลับหน้าหลัก
บริษัท ไซเมส เอ็นจิเนียริ่ง
121 หมู่1 ซ.ธนะนิรันดร์ ต.บางศรีเมือง ถ. สุขาภิบาล อ.เมือง นนทบุรี 11000 เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 0125558021330